จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | นวนิยาย, เรื่องสั้น |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | ดีมาก (95-99 %) |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ปุลากง โสภาค สุวรรณ สำนักพิมพ์บรรณกิจ พ.ศ. ๒๕๓๗ มี ๔๒๑ หน้า @
ในบทแรกนั้นกล่าวถึงพระเอกของเรื่องที่อยู่ในฐานะลูกเมียน้อยของเศรษฐีที่อาศัยอยู่ร่วมรั้วเดียวกันกับบรรดาเมียหลวงและลูกๆ ชีวิตของพระเอกนั้นเขามักจะเปรียบเทียบตนเองกับบรรดาลูกเมียหลวงคนอื่นๆอยู่เสมอ ในสายตาของชาวบ้านเขาดูมีพร้อม มีศักดิ์ด้วยนามสกุลของพ่อ แต่ความจริงนั้นเขาอยากถอดนามสกุลของเขาทิ้งเสียเหลือเกิน เมื่อเขาโตขึ้นเขาจะออกจากบ้านหลังนั้น แล้วจะต้องได้ดีกว่าใครๆ เห็นได้ว่าพระเอกของเรื่องนี้นั้นมีความมุ่งมั่นและอดทน รอคอยวันใดวันหนึ่งอยู่เสมอ เรืองการคบหาชู้นั้นในอดีตกฎหมายคงทำลายคนสูงศักดิ์ไม่ได้ แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมที่จะทำเช่นนี้มาจนถึงปัจจุบัน กฎหมายยังคงเอาผิดไม่ได้ แต่สังคมจะเป็นคนสอยให้เอง นางเอกของเรื่องเป็นเพียงเด็กสาวข้างบ้านเท่านั้น ในช่วงแรกๆผู้เขียนไม่กล่าวอะไรถึงหล่อนมากนัก พลางทำให้นึกว่าหล่อนเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ แต่หญิงสาวพิการที่เป็นลูกเมียหลวงและสนิทกับพระเอกมากทีสุดนั้นดูเหมือนนางเอกเสียมากกว่า ปุลากงเป็นตำบลในจังหวัดปัตตานี หนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย สถานที่ซึ่งตำรวจหนุ่มและพัฒนากรสาวปลูกต้นรักร่วมกันท่ามกลางสงคราม ทั้งสองเป็นคนที่ยึดคติเดียวกันที่กล่าวว่า “หน้าที่ของตำรวจคือรักษาชาติบ้านเมือง ไม่ใช่นอนกินเงินข้าราชการ” ตำรวจหนุ่มได้กล่าวไว้ พัฒนากรสาวได้กล่าวว่า “นักพัฒนาการเป็นผู้ที่พัฒนาท้องถิ่นให้เจริญ หากมัวแต่ทำงานในห้องแอร์ แล้วชาติจะเจริญได้อย่างไร” ในส่วนนี้ผู้เขียนทำไว้ดีมาก กล่าวถึงสังคมทีเห็นได้ชัดในปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมาว่าทุกวันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยคนเห็นแก่ตัว เกียรติยศชื่อเสียงมีไว้เพื่อเป็นฉากกั้นหน้า ผู้เขียนบรรยายให้เห็นถึงความเป็นชนบทโดยแท้จริง ทุกครั้งที่ผู้เขียนกล่าวถึงวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมในปุลากงจะสามารถทำให้เราเห็นภาพและรู้สึกตื่นเต้นไปกับจินตนาการของตนเอง อย่างเช่นในฉากหนึ่งเขียนว่าเวลาปวดท้องแล้วต้องวิ่งเข้าป่า เหตุไฉนใน พ.ศ.2520 ตำบลทั้งตำบลช่างล้าสมัยและไม่มีส้วมใช้อย่างนี้ พัฒนากรสาวก็ต้องเสกส้วมให้พวกเขาได้เห็นกันสักหน่อยว่ามันมีความจำเป็นมากแค่ไหน ในช่วงแรกที่พัฒนากรสาวเข้าไปอยู่ร่วมกับชาวบ้านนั้นค่อนข้างลำบาก แต่ผู้เขียนได้แทรกความอบอุ่นจากครอบครัวผู้นำหมู่บ้าน ที่มีตัวละครเด็กซึ่งเป็นลูกของผู้นำหมู่บ้านเป็นตัวเชื่อม พัฒนากรสาวเริ่มงานด้วยการสอนภาษาไทยให้ชาวบานสำนึกรักบ้านเกิดเมืองนอน เพราะชาวปุลากงส่วนใหญ่มักคิดว่าพวกเขาเป็นคนนอกประเทศรูปขวาน ในส่วนนี้ผู้เขียนต้องการให้ชาวปุลากง เปรียบเสมือนชาวสยามทั้งแผ่นดิน ปัจจุบันนี้เคารพรักบ้านเกิดค่อนข้างเลือนลางและจางหายไปจากประเทศ ชาวใต้จำนวนมากเมื่อเวลา 8 นาฬิกา ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน เมื่อเพลงชาติไทยเริ่มบรรเลง พวกเขาจะหยุดนิ่งและร้องเพลงชาติอย่างสุดเสียงโดยอัตโนมัติ พัฒนากรสาวหล่อนค่อยๆสอดแทรกเข้าไปในจิตใจของแต่ละคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กระซิบบอกหัวใจของพวกเขา เรื่องมาเร้าใจให้ตื่นเต้นระทึกปนหวานหวามใจ เมื่อตำบลปุลางถูกจัดฉากให้เป็นทางผ่านของชุมโจร ซึ่งที่ตำรวจหนุ่มได้มาประจำการที่ตัวอำเภอ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันแต่พยายามบอกตัวเองเสมอว่ามันไม่ใช่ความจริง ความรักท่ามกลางบรรยากาศกองโจร ปล้น ฆ่า ข่มขืน...ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แต่งแสดงให้เห็นว่าสังคมที่กลุ่มคนเข้ากันไม่ได้พวกเขาพยายามเรียกร้องปลุกให้ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนไทย ในสมัยก่อนนั้นอาจเป็นเพียงกลุ่มโจร แต่ปัจจุบันพวกนั้นมีเป็นองค์กรที่ใหญ่ขึ้น มีทั้งระเบิด ปืน ปล้นสะดมอาวุธจากทางการต่างๆ... เหตุการณ์ชวนให้ติดตามว่าเหตุใดพวกเขาถึงมารุกรานบ้านเกิดของเรา ทั้งๆที่มันเป็นแผ่นดินของคนไทย ผู้แต่งบรรยายเหตุการณ์ดำเนินเรื่องด้วยภาษาร้อยแก้วที่สวยงาม แต่พิเศษคือมีการแทรกการเดินเรื่องด้วยการเขียนจดหมาย เช่น วีรุทย์ เพื่อนสนิทของหนูตุ่น(นางเอก) ได้ใช้จดหมายส่งข่าวถึงกันนอกจากจะเป็นการกระชับเรื่องแล้ว ยังเป็นการสะท้อนค่านิยมสมัยก่อนที่มีการสื่อสารโต้ตอบกันด้วยการเขียนจดหมาย ผู้แต่งยังได้สอดแทรกค่านิยม ข้าราชการไทยบางส่วนที่หลงอำนาจ เช่น ...หล่อนเคยเห็นอาการหวาดหวั่นกลัวเกรงที่ชาวบ้านมีต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งสำคัญผิดคิดว่าตนเป็นบุคคลชั้นพิเศษเหนือกว่ามวลชนเหล่านั้น... ผู้แต่งใช้ภาษาบรรยายได้อย่างเห็นภาพตลอดเรื่อง มีการใช้สำนวนสอดแทรกเป็นระยะ เช่น ตอนหนูตุ่นยังเด็กได้พูดถึงเข้ม(พระเอก) ว่า “...หน้างอยังกับม้าหมากรุก ที่บ้านไม่มีใคร ผมมารับคุณพี่...” ผมเห็นบุคลิกของเข้มได้ชัดเจน ส่วนประโยคหลังแทบจะเห็นสีหน้าล้อเลียนของหนูตุ่นจนต้องยิ้มตาม ผู้แต่งได้ใช้โวหารอุปมาได้อย่างเห็นภาพ เช่น หลังจากเหตุการณ์ที่เข้มได้ถูกคุณฉะอ้อนไล่กลับ... เขาเม้มปากแน่นดวงตาทั้งคู่เหมือนมีเพลิงสุมเอาไว้... แทบทำตาราวกับเสือโคร่งจะตะครุบเหยื่อ... และตอนที่มูเนาะทราบข่าวการเสียชีวิตของวีรุทย์... มูเนาะแข็งทื่อเหมือนกับหลักศิลา... หรือแม้กระทั่งบทที่อาจทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายไปด้วย... หล่อนรู้สึกเองว่าเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นที่ลอยละล่องอยู่ในอากาศ... ผมได้อ่านหนังสือหลายเล่ม บางเล่มอ่านครึ่งเล่มก็วาง บางเล่มอ่านได้เพียงบทเดียวก็ปล่อย ส่วนบางเล่มก็ปล่อยให้ที่คั่นหนังสือทำหน้าที่ของมันไปตลอดกาล แต่สำหรับปุลากงมันพิเศษกว่าเล่มอื่นๆ มันสะกดและโปรยเสน่ห์ใส่ผมดั่งกับผู้เสื้อปล่อยฟีโรโมน เพียงแค่ชื่อเรื่องเท่านั้นที่ทำให้ผมต้องหยิบมันขึ้นมาอ่าน มันแอบหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดมุมเก่าๆที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ในแต่ละบทถูกเรียบเรียงมาอย่างดี ชวนให้คุณติดตามว่าบทต่อไปจะเป็นอย่างไร พร้อมกับเรียนรู้วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ที่แตกต่าง ซึ่งนับได้ว่าน่าพิศวงชวนประหลาดใจยิ่งนัก ปุลากงจึงเป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับการอ่านฆ่าเวลาอย่างยิ่ง ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |
หน้าที่เข้าชม | 24,672 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 18,509 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 พ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |