ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
นิทานเวตาล  พระนิพนธ์ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ นมส. สำนักพิมพ์ ศิลปบรรณาคาร พ.ศ. ๒๕๑๑ มี ๓๘๘ หน้า @

  ครั้นถึงกำหนดกลางคืนแรม ๑๔ค่ำ พระราชากับพระราชบุตรก็เตรียมพระองค์ ทรงผ้าโพกพันไปใต้คาง ทรงถือดาบอันเป็นอาวุธคู่ทรงพระหัตถ์ สามารถสู้อริทั้งที่เป็นมนุษย์แลอมนุษย์ สององค์พากันเสด็จออกจากวังดำเนินไปตามถนน บ่ายพระพักตร์สู่ป่าช้าซึ่งอยู่ริมแม่น้ำโคทาวรี
   คืนนั้นมืดนัก พายุพัดฝนตกเยือกเย็น ผู้คนไม่มีเดินไปมาในถนน พระราชาแลพระราชบุตรตั้งพระพักตร์รึบดำเนินไปจนเห็นแสงไฟอยู่กลางป่าช้า ก็เสด็จตรงเข้าไปหาแสงไฟ เมื่อถึงขอบป่าช้า พระราชาหยุดชงัก เพราะรังเกียจเหยียบพื้นดินโสโครกด้วยซากศพ ทรงเหลียวดูพระราชบุตรเห็นมิได้ครั่นคร้ามเลย สององค์ก็ทรงดำเนินตรงเข้าไป
    สักครู่หนึ่งถึงกลางป่าช้า พระราชาทอดพระเนตรเห็นสิ่งซึ่งน่าเป็นที่รังเกียจต่างๆ อยู่ล้อมกองไฟซึ่งได้เผาศพใหม่ๆภูติผีปีศาจปรากฎแต่ตารอบข้างเสือคำรามอยู่ก็มี ช้างฟาดงวงอยู่ก็มี หมาไนซึ่งขนเรื่องๆ อยู่ในที่มืดก็กินซากศพ ซึ่งกระจัดกระจายเป็นชิ้นเป็นท่อนหมาจิ้งจอกก็ต่อสู้แย่งอาหาร คือเนื้อแลกระดูกมนุษย์หมีก็ยืนเคี้ยวกับตับแห่งทารก  ในที่ใกล้กองไฟเห็นรูปผีนั่งยืนแลลอยอยู่เป็นอันมาก ทั้งมีเสียงลมแลฝน เสียงสุนัขเห่าหอน เสียงนกเค้าแมวร้อง แลเสียงกระแสน้ำไหลกลบกันไป
     ในท่ามกลางสิ่งน่าเกลียดน่ากล้วเหล่านี้ โยคีศานติศีลนั่งอยู่ใกล้กองไฟ มีกะโหลกศีรษะวางอยู่บนเข่า มือถือกระดูกแข้งมือละท่อน เคาะกะโหลกเป็นเพลงให้ภูตต่างๆรำแลโลดไปมาอยู่รอบข้าง
      พระวิกรมาทิตย์ทรงความกล้าอย่างที่สุด ดังจะเห็นได้ในเวลาทีรบยักษ์นั้นแล้ว แต่ความกล้านั้นประกอบด้วยความระมัดระวังพระองค์ ครั้นเห็นมนุษย์แวดล้อมด้วยผีดังนั้น ก็ซ้ำคิดถึงยักษ์ เห็นเป็นช่องอันดีที่จะทำลายศัตรูซึ่งมุ่งร้ายต่อพระองค์ ทรงคิดว่าในขณะนั้นถ้าตรงเข้าไปฟันด้วยพระแสงดาบอันคมกล้า ให้หัวโยคีขาดไป ก็จะทำได้สำเร็จประสงค์โดยง่าย แต่ก็ทรงรำลึกว่าได้สํัญญาเสียแล้วว่า จะมารับใช้โยคีในคืนวันนั้นจำต้องปฏิบัติตามข้อสัญญา "แลระวังพระองค์คอยหาโอกาสในเวลาข้างหน้าต่อไป"
      พระราชาทรงดำริห์ฉะนี้แล้ว จึงเสด็จทรงนำพระราชบุตรเข้าไป  กระทำกิริยาเคารพโยคีเป็นอันดีแล้วทรงนั่งลงบนพื้นดินตามคำโยคีทูลเชิญ สักครู่หนึ่งพระราชาตรัสว่า "เรามาทั้งนี้โดยสัญญาจะปฏิบัติคำสั่งแห่งท่าน ท่านจะให้เราทำอันใดจงว่าไปเถิด"
     โยคีทูลตอบว่า "พระองค์เสด็จมาถึงแล้ว ก็จงปฏิบัติตามประสงค์ข้อหนึ่งของข้าพเจ้าก่อน คือในทิศใต้มีป่าช้าเช่นเดียวกันนี้อีกแห่งหนึ่ง ในป่าช้านั้นมีต้นอโศก บนต้นอโศกนั้นมีศพแขวนอยู่ศพหนึ่ง พระองค์จงไปพาศพนั้นมาให้ข้าพเจ้าโดยเร็ว"
     พระราชาทรงฟังดังนั้น ก็จับพระหัตถ์พระราชบุตรพากันเดินไปในทิศใต้ ทรงทราบแน่ในพระทัยว่าศานติศีลนี้เอง คือโยคีซึ่งพระราชบิดาได้ทรงก่ออริ ในเวลานี้ศานติศีลกำลังตั้งพิธีจะทำร้ายพระองค์ แลพระราชวงค์ของพระองค์ จำเป็นพระราชาต้องคิดอุบายป้องกัน มิให้โยคีกระทำการเป็นภัยแก่พระองค์ได้ ทรงพระดำริเช่นนี้พลางดำเนินไป  ได้ยินเสียงดนตรีของโยคีและเสียงภูติผีปีศาจต่างๆ เต้นรำทำเพลงอื้ออึงไปในป่าช้า ทางที่เดินนั้นมือ ถึงแก่จะเดินให้ตรงมิได้ ทั้งมีภูตตามล้อหลอกให้ตกใจ บ้างก็แกล้งขวางจะให้สดุดล้ม บ้างก็เป็นงูมาพันพระชงฆ์ บ้างก็ทำแสงวูบวาบข้างๆ ทางเดิน บ้างก็ทำเสียงดังลั่นใกล้ๆ พระองค์ แม้คนที่กล้าก็น่าหลาดเสียวไม่อาจดำเนินต่อไปได้ แต่พระราชากับพระราชบุตรก็มิได้ถอย พากันทรงดำเนินไปจนถึงป่าช้าซึ่งโยคีทูลนั้น สักครู่หนึ่งเห็นต้นอโศกต้นใหญ่ลุกเป็นไฟแดงไปทั้งต้น พระราชาไม่ทรงย่อท้อก็เดินตรงเข้าไป ประเดี๋ยวได้ยินเสียงผีร้องบอกว่า "ฆ่าเสีย ฆ่าเสียทั้งสองคน จับตัวให้ได้ ช่วยกันจับตัวเผาในไฟบนต้นไม้นี้ให้ไหม่เป็นจุลไป ทำให้รู้สึกพิษไฟแห่งบาดาล"
      พระราชาไม่ทรงครั้นคร้าม ก็ตรงเข้าไปถีงต้นไม้แต่เปลวไฟบนต้นอโศกนั้นมิได้ร้อน เพราะเป้นไฟที่ปีศาจสำแดงหลอกเท่านั้น เมื่อเข้าไปถึงโคนต้นไม้พระราชาก็หยุดพิศดูศพซึ่งแขวนอยู่บนกิ่งอโศก
      ศพนั้นลืมตาโพลง ลูกตาสีเขียวเรื่องๆ ผมสีนำ้ตาล หน้าสีน้ำตาล ตัวผอมเห็นโครงเป็นซี่ดๆ ห้อยเอาหัวลงมาทำนองค้างค่ว แต่เป็นค้างคาวตัวใหญ่ที่สุด เมื่อจับถูกตัวก็เย็นซีดเหนียวๆ เหมือนงู ปรากฎเหมือนหนึ่งว่าไม่มีชึวิต แต่หางซึ่งเป็นเหมือนหางแพะนั้นกระดิกได้
      พระวิกรมาทิตย์ทอดพระเนตรเห็นเช่นนี้ ก็ทรงคืดในพระหฤทัยว่า ตัวที่ห้อยอยู่นั้นคือเวตาล แต่เดิมทรงคิดว่าศพนี้คือศพลูกชายของพ่อค้าน้ำมัน ซึ่งยักษ์ได้ทูลไว้ว่าโยคีเอาไปแขวนไว้ที่ต้นไม้ ครั้นเมื่อเห็นเป็นเวตาลเช่นนี้ก็ทรงพิศวง แต่ทรงดำริว่าชรอยโยคีจะแกล้งเปลี่ยนศพลูกชายพ่อค้าน้ำมัน ให้มีรูปเป็นเวตาลเพื่อจะลวงให้สนิทดอกกระมัง
      ทร่งคิดเช่นนั้นแล้ว พระราชาก็ทร่งปืนขึ้นไปบนต้นไม้ ตรัสให้พระราชาบุตรยืนหลีกให้ห่างออกไป แล้วทรง พระแสงดาบฟันกิ่งไม้ซึ่งเวตาลห้อยอยู่นั้น ขาดตกลงยังดิน ทั้งเวตาลด้วย ฝ่ายเวตาลเมื่อตกถึงพื้นดินก็กัดฟันร้องเสียงเหมือนทารกซึ่งได้รับความเจ็บ พระราชาตรัสว่า "อ้ายตัวนี่มีชีวิต " แล้วเสด็จลงจากต้นไม้ตรัสถามเวตาลว่า "เอ็งนี้อะไร"
      ตรัสแทบจะยังไม่ทันขาดคำ เวตาลหัวเราะด้วยเสียงอันดัง แล้วกล้บขึ่นไปห้อยเกาะกิ่งไม้กิ่งอื่นอยู่บนต้นไม้อย่างเก่า ห้อยพลางหัวเราะจนตัวแก่วงไปแกว่งมา.

      
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสามโคก ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านหนังสือ บ้านปันสุข
หนังสือ บ้านปันสุข
จำหน่ายหนังสือเก่า , หนังสือโบราณ , หนังสือปกแข็งคลาสสิก และหนังสือหายากทุกประเภท ฯลฯ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
เบอร์โทร : 0982710383
อีเมล : gachong8835@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด

MEMBER

STATISTIC

หน้าที่เข้าชม24,657 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด18,494 ครั้ง
เปิดร้าน14 พ.ย. 2561
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

CONTACT US

0982710383
พูดคุย-สอบถาม